ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับการดำเนินกิจการของบริษัท

บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด (“บริษัท”) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล (PERSONAL DATA PROTECTION) ที่ต้องได้รับความคุ้มครองภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล จึงวางแนวทางและวิธีปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทุกท่าน โดยมีการเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้การเปิดเผยให้ เป็นไปอย่างปลอดภัย การแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ให้ใช้กับข้อมูลส่วนบุคคลของ บุคคลต่างๆ ที่อยู่ในความครอบครองของบริษัทสำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ในการดำเนินกิจการของบริษัท ซึ่งแบบแจ้งฉบับนี้จะอธิบายให้เห็นถึงการเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่บริษัทได้ขอจัดเก็บจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงจากบุคคลที่สาม ลักษณะการจัดเก็บและกระทำกับข้อมูลส่วนบุคคล มีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยเพื่อการใด และมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและปกป้องข้อมูลนี้มิให้มีการ นำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน
1. คำนิยาม
“บริษัท” หมายถึง บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจ เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับ การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
“บุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดา
“เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” (DATA PROTECTION OFFICER: DPO) หมายถึง ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ให้คำแนะนำและตรวจสอบการดำเนินงาน ประสานงาน และให้ความร่วมมือ กับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
“การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผล อื่นใดในข้อมูลส่วนบุคคล
2. ขอบเขตการบังคับใช้
บริษัทได้จัดทำและเผยแพร่ประกาศฉบับนี้เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร หรือผู้ที่เกี่ยวข้องของบริษัทย่อย บริษัทในเครือ บริษัทร่วมทุน คู่ค้า ลูกค้า ผู้รับจ้าง ผู้ขายสินค้าหรือผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา ผู้ประกอบการ รวมถึงกรรมการ ผู้บริหาร ผู้แทน ผู้รับมอบ อำนาจ พนักงานหรือผู้ปฏิบัติงานในนามของบุคคลดังกล่าวข้างต้น สมาชิกในครอบครัว บุคคลอ้างอิง บุคคลติดต่อ กรณีฉุกเฉินของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ตลอดจนผู้เข้าร่วมกิจกรรม นักลงทุน สื่อมวลชนหรือ บุคคลภายนอกอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่อยู่ในกระบวนการเข้าทำสัญญา การลงทุน การดำเนินโครงการของบริษัท หรือ มีความสัมพันธ์ทางกฎหมายหรือสัญญากับบริษัท ระหว่างการปฏิบัติตามสัญญา การเข้าร่วมการประชุมหรือ กิจกรรมของบริษัท หรือการดำเนินการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูล ช่องทางการ จัดเก็บข้อมูล ประเภทและรูปแบบของข้อมูลที่จัดเก็บ วัตถุประสงค์ของบริษัทในการ นำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ การแบ่งปันส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลอื่น ตลอดจนวิธีการที่บริษัทดำเนินการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์และเพียงเท่าที่จำเป็น ตามกรอบวัตถุประสงค์หรือเพื่อประโยชน์ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม โดยบริษัทจะแจ้งให้ เจ้าของข้อมูลทราบก่อนหรือในขณะรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลถึงรายละเอียดดังต่อไปนี้ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนด ไว้เป็นอย่างอื่น
(1) วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม
(2) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ทำการเก็บรวบรวม
(3) กรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือ สัญญา หรือเพื่อเข้าทำสัญญา โดยจะแจ้งถึงผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลให้เจ้าของข้อมูล ทราบด้วย
(4) ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมอาจถูกเปิดเผย
(5) สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
(6) ข้อมูลติดต่อของบริษัทในฐานะที่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและของเจ้าหน้าที่ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ถ้ามี)
บริษัทได้จัดเก็บข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่มีความจำเป็น และเป็นไปตาม วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลที่บริษัทจะแจ้งให้ทราบในลำดับถัดไป ทั้งนี้ได้จำแนกประเภทของข้อมูล ส่วนบุคคลที่บริษัทจัดเก็บไว้ดังนี้
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล | รายละเอียด |
---|---|
3.1 ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน | เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขประจำตัวประชาชน หมายเลขใบอนุญาตขับรถ หมายเลขหนังสือเดินทาง วัน เดือน ปีเกิด สถานที่เกิด เพศ อายุ น้ำหนัก ส่วนสูง สัญชาติสถานภาพการสมรส รูปถ่าย ลายมือชื่อ รวมถึงข้อมูลอื่นที่ 3 ปรากฏบนสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนา ใบอนุญาตขับรถ สำเนาทะเบียนสมรส หรือสำเนาทะเบียนบ้าน เป็นต้น |
3.2 ข้อมูลติดต่อ | เช่น ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่เดิม หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ข้อมูลติดต่อบนสื่อสังคมออนไลน์เป็นต้น |
3.3 ข้อมูลทางการเงินหรือ ข้อมูลการทำธุรกรรม | เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลบัญชีธนาคาร เป็นต้น |
3.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งาน ระบบสารสนเทศของ บริษัท หรือข้อมูลด้าน เทคนิคอื่น ๆ | เช่น หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP ADDRESS) รหัสประจำตัว อุปกรณ์ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมผ่านคุกกี้(COOKIES) หรือเทคโนโลยี อื่นที่มีลักษณะเดียวกัน ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์(LOG) ข้อมูลการเข้า ใช้งานเว็บไซต์และระบบต่าง ๆ ของบริษัท ข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานสำหรับใช้ งานระบบสารสนเทศของบริษัท เป็นต้น |
3.5 ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา และการทำงาน รวมถึงการ ฝึกอบรมต่าง ๆ | เช่น ประวัติการศึกษาและการทำงาน ประวัติการเข้ารับการฝึกอบรม ความสามารถทางภาษา ข้อมูลใบอนุญาตทำงาน ข้อมูลใบประกอบวิชาชีพ ชื่อสถานที่ทำงาน ตำแหน่งงาน แผนกที่ทำงาน อัตราเงินเดือน วันที่เริ่ม ทำงาน เป็นต้น |
3.6 ข้อมูลการติดต่อกับบริษัท | เช่น ข้อมูลการบันทึกภาพหรือเสียงเมื่อมีการติดต่อกับบริษัท เป็นต้น |
3.7 ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท | เช่น การบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว หรือเสียง เป็นต้น |
3.8 ข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ | เช่น สถานภาพการเกณฑ์ทหาร ข้อมูลบุคคลในครอบครัว ข้อมูลบุคคล อ้างอิง ข้อมูลบุคคลติดต่อกรณีฉุกเฉิน ข้อมูลการตรวจสอบภูมิหลัง ผลสำรวจความคิดเห็นหรือการประเมินความพึงพอใจ ข้อมูลการใช้ไฟฟ้า ค่าไฟฟ้า เป็นต้น |
3.9 ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว | เช่น เชื้อชาติศาสนา ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ผลการตรวจ สารเสพติด ความพิการหรือสภาพเฉพาะ ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า เป็นต้น |
ในบางกรณีบริษัทอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็น ผู้เยาว์คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ในกรณีดังกล่าว บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งรวมถึงการขอความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามที่กฎหมายกำหนด หากบริษัทไม่มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายประการอื่นนอกเหนือจากการขอความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
4. การได้มาและเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งต่าง ๆ ได้แก่
4.1 การได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง
ข้อมูลส่วนบุคคลโดยส่วนใหญ่ บริษัทจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วน บุคคลโดยตรง โดยเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล จากขั้นตอนการกรอก ลงนาม หรือการนำส่งเอกสาร ที่ เกี่ยวข้องแก่บริษัท การทำแบบสอบถาม หรือลงทะเบียนต่าง ๆ การดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา การแนบเอกสารประกอบการทำสัญญา การยื่นข้อเรียกร้องหรือคำร้องขอใช้สิทธิต่าง ๆ ต่อบริษัท การติดต่อ บริษัทผ่านทางช่องทางต่าง ๆ (เช่น ทางโทรศัพท์ทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์) การเข้าร่วมประชุมหรือ การเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทที่อาจมีการบันทึกภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว นอกจากนี้บริษัทอาจมีการจัดเก็บข้อมูลโดยอัตโนมัติ (เช่น เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัท หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท)
4.2 การได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น
บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บุคคลใกล้ชิดในครอบครัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เอกสาร ของทางราชการ บุคคลอ้างอิงซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ข้อมูลไว้แก่บริษัท ตัวแทนของบริษัท หน่วยงาน ราชการ หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานเอกชน หรือแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ (เช่น เว็บไซต์ ของหน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลที่ค้นหาได้ทางอินเทอร์เน็ต เป็นต้น)
5. ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป บริษัทจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีวัตถุประสงค์ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย โปร่งใส และเป็นธรรม ภายใต้ฐานการประมวลผล ข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
5.1 เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลตามมาตรา 24(2) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
5.2 เพื่อการปฏิบัติตามพันธสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัท หรือเพื่อใช้ ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญา ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 24(3) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
5.3 เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทซึ่งจะไม่ละเมิดสิทธิ ขั้นพื้นฐาน หรือสิทธิทางเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 24(5) ของพระราชบัญญัติ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
5.4 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติการบัญชีประมวล รัษฎากร พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์พระราชบัญญัติ กำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิเป็นต้น ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 24(6) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล กรณีที่มีกฎหมายกำหนด ให้ขอ ความยินยอม หรือบริษัทไม่มีเหตุให้ใช้ฐานการประมวลผลข้างต้นเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม มาจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ประสงค์ให้ความยินยอมในส่วนนี้ สามารถถอน ความยินยอมได้โดยติดต่อบริษัทและแจ้งความประสงค์ได้ตามข้อ 10
ในกรณีข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวข้างต้น โดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่กรณีตามที่กฎหมายกำหนด
6. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
วัตถุประสงค์และรายละเอียดดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลที่บริษัทจะแจ้งต่อไปนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์สถานะของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และลักษณะ ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัท ดังต่อไปนี้
วัตถุประสงค์ในการดำเนินการ | รายละเอียด |
---|---|
1. เพื่อการลงทุนในกิจการ อื่น การร่วมทุน และ/หรือการ ดำเนินโครงการอื่นๆ | 1) เพื่อการลงทุนในธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงการถือหุ้นในบริษัทหลัก บริษัท ย่อย และ/หรือ บริษัทร่วมทุน เช่น บริษัทพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าที่ใช้ เชื้อเพลิงหลักประเภทต่างๆ ตลอดจนธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับการผลิตไฟฟ้าและ พลังงานด้านอื่นๆ รวมทั้งระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ รวมถึงการเข้าซื้อกิจการหรือการซื้อขายหุ้นการตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับการลงทุนที่เกี่ยวข้อง 2) เพื่อการดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่บริษัทจัดขึ้น หรือที่บริษัทให้การ สนับสนุน เช่น โครงการความยั่งยืน โครงการพลังงานทดแทน โครงการด้านสิ่งแวดล้อม เป็นต้น |
2. เพื่อการทำสัญญาหรือ ข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง | 1) เพื่อดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติและคัดเลือกคู่สัญญาก่อนเข้าทำ สัญญา หรือข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง ในฐานะที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็น คู่สัญญาโดยตรง หรือในฐานะที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นกรรมการ ผู้แทน ผู้รับมอบอำนาจ หรือผู้ปฏิบัติงานในนามของคู่สัญญาดังกล่าว 2) เพื่อการเข้าทำสัญญา หรือข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกระบวนการ พิจารณาและการขออนุมัติเพื่อการเข้าทำสัญญาหรือข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง การขออนุมัติจัดทำโครงการ และการบริหารจัดการภายในของบริษัทที่เกี่ยวข้อง |
3. เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา | 1) เพื่อการปฏิบัติหน้าที่และการใช้สิทธิตามสัญญา ข้อตกลงทางธุรกิจ หรือข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง การบริหารสัญญา การแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญา ตลอดจนการเลิกสัญญา รวมถึงการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติ ตามสัญญา เช่น การออกใบแจ้งหนี้ การชำระเงิน การออกหลักฐานการ ชำระเงิน การขอรับรองหลักสูตรต่อกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน การส่งงบ การเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า การดำเนินการเพื่อการหักภาษี ณ ที่จ่าย และการนำส่งหลักฐานประกอบการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายตามประมวลรัษฎากร การตรวจสอบและตรวจรับงานตามสัญญาหรือ ข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น 2) เพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ปฏิบัติงานก่อนเริ่มปฏิบัติงาน ตามสัญญาหรือข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่สภาพของงานหรือตำแหน่งงานนั้น มีกฎหมายกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่ปฏิบัติงานเอาไว้ เช่น งานวิศวกรรม งาน สถาปนิก เป็นต้น |
4. เพื่อการให้บริการแก่ หน่วยงานภายนอก | เพื่อการให้บริการแก่บุคคลภายนอก รวมถึงการดำเนินการจัดทำข้อเสนอ และยื่นข้อเสนอการให้บริการแก่หน่วยงานภายนอก เช่น การให้บริการ เกี่ยวกับการบริหารการก่อสร้าง เป็นต้น |
5. เพื่อการสอบถามความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน | เพื่อการประเมินความพึงพอใจ การสอบถามข้อคิดเห็นเเละข้อเสนอเเนะในการปฏิบัติงานของบริษัท ตลอดจนการนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะมาวิเคราะห์ปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานของบริษัท |
6. เพื่อการติดต่อ ประสานงาน | เพื่อการติดต่อสื่อสารและประสานงานเกี่ยวกับการดำเนินกิจการของบริษัท หรือกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกบริษัท เช่น การติดต่อ ประสานงานเพื่อการเยี่ยมชมโครงการ (SITE VISIT) การประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข่าวสารหรือกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น ตลอดจนการจัดทำ ฐานข้อมูลเพื่อการติดต่อสื่อสาร |
7. เพื่อการดำเนินการ ประมวลผลข้อมูลในกรณีที่ท่านเป็นพนักงาน ผู้บริหาร กรรมการของบริษัทในเครือ ของบริษัท | 1) เพื่อการแจ้งหรือรับข้อมูล การติดต่อสื่อสาร การประสานงาน เกี่ยวกับการดำเนินการร่วมกันระหว่างบริษัท และบริษัทในเครือ เช่น การ เปลี่ยนแปลงคณะกรรมการของโครงการ การศึกษาดูงานหรือการเข้าเยี่ยมชมโครงการ เป็นต้น 2) เพื่อการปฏิบัติหน้าที่เพื่อการดำเนินการร่วมกันระหว่างบริษัทและ บริษัทในเครือ หรือการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทและพนักงานของ บริษัทในเครือ เช่น การหักภาษี ณ ที่จ่าย และดำเนินการจัดทำหนังสือ รับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายให้แก่ผู้ที่ได้รับของหรือรางวัลจากทางบริษัท 7 รวมถึงดำเนินการส่งหลักฐานประกอบการหักภาษี ณ ที่จ่ายต่อ กรมสรรพากร การรับรองสำเนาเอกสารต่าง ๆ เพื่อการจดทะเบียนหรือยื่นคำขอที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น 3) เพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติของบุคคลที่เกี่ยวข้องสำหรับการดำเนิน กิจการของบริษัท เช่น การตรวจสอบประวัติอาชญากรรมต่อสำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น 4) เพื่อการมอบอำนาจสำหรับการดำเนินการแทนบริษัท ตลอดจน ขั้นตอนการจัดทำหนังสือมอบอำนาจ การรับรองสำเนาเอกสารเพื่อ ประกอบการมอบอำนาจ และการบริหารจัดการภายในของบริษัท ที่เกี่ยวข้อง 5) เพื่อดำเนินการเก็บและตรวจสอบข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์เมื่อมีการเข้าใช้งานระบบสารสนเทศทางคอมพิวเตอร์ของบริษัท ตามพระราชบัญญัติว่า ด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 |
8. เพื่อการตรวจสอบภายใน หรือการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง | 1) เพื่อตรวจสอบและดำเนินการตามความจำเป็นตามกฎหมาย ข้อบังคับ ต่าง ๆ เช่น การเก็บบันทึกเรื่อง การรับของขวัญ ของกำนัล หรือสินน้ำใจ ต่าง ๆ การต่อต้านการติดสินบน รายงานคอร์รัปชั่น จรรยาบรรณและ จริยธรรมทางธุรกิจ เป็นต้น 2) เพื่อการบริหารความเสี่ยง การป้องกันและตรวจสอบ และการบริหาร จัดการภายในองค์กร ตามที่กำหนดในกฎหมาย คำสั่งหรือระเบียบภายใน ของบริษัท รวมถึงการพิจารณาเรื่องร้องเรียนการทุจริตหรือประพฤติมิชอบภายในบริษัท เช่น การตรวจสอบภายในของบริษัท การตรวจสอบ สอบสวน และป้องกันการทุจริตหรือการกระทำอื่นใด ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นต้น |
9. เพื่อการดำเนินการวางแผนวิเคราะห์ข้อมูล | เพื่อการดำเนินการวางแผน รายงาน ประเมิน และวิเคราะห์ข้อมูลการจัดทำข้อมูลและสถิติ การรายงาน การประเมิน สำหรับการดำเนินงาน ของบริษัท |
10. เพื่อการเข้าร่วมกิจกรรม และ/หรือการประชุมของ บริษัท | 1) เพื่อการเข้าร่วมการประชุม หรือกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท หรือที่ บริษัทให้การสนับสนุน ตลอดจนการดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นเกี่ยวกับ การประชุม หรือกิจกรรมต่าง ๆ ดังกล่าว เช่น การสมัครเข้าร่วมกิจกรรม การลงทะเบียนผู้เข้าร่วมการประชุมหรือกิจกรรม การอำนวยความสะดวกในการเข้าร่วมการประชุมหรือกิจกรรม การมอบของรางวัล การจัดทำเอกสาร ประกอบการประชุม การจัดทำรายงานประชุม การจัดเตรียมอาหาร เป็นต้น ตลอดจนการบริหารจัดการภายในของบริษัทที่เกี่ยวข้อง |
2) เพื่อการบันทึกภาพและ/หรือเสียงของผู้เข้าร่วมการประชุม หรือ กิจกรรมต่างๆ รวมถึงจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์และการนำเสนอข่าวสาร ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัท การประชุม หรือกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งช่องทางออนไลน์และช่องทางอื่น | |
11. เพื่อการรับฟังความคิดเห็น | เพื่อการรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินกิจการ ของบริษัท การประชุม หรือกิจกรรมต่างๆ ที่บริษัทได้จัดขึ้น เช่น การจัดกิจกรรมการจัด รับฟังความคิดเห็นของบุคคลที่เกี่ยวข้องสำหรับจัดทำรายงานการประเมินผล กระทบสิ่งแวดล้อม (ENVIRONMENTAL IMPACT ASSESSMENT: EIA) และโครงการส่งเสริมโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน (CSR-DIW) การจัดทำแบบสำรวจทัศนคติของชุมชน เป็นต้น ตลอดจนนำส่ง รายงานดังกล่าวให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการนำข้อคิดเห็นและ ข้อเสนอแนะมาวิเคราะห์ปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงาน ของบริษัท |
12. เพื่อการดำเนินการตาม กฎหมายอื่น ๆ การตรวจสอบ ภาระผูกพันตามกฎหมาย และการจัดการเกี่ยวกับสิทธิ เรียกร้องตามกฎหมายของบริษัท | 1) เพื่อการปฏิบัติตามภาระผูกพันตามกฎหมาย อาทิเช่น การโอนสิทธิ การสืบสิทธิการระงับสิทธิเป็นต้น รวมถึงเพื่อจัดการเกี่ยวกับข้อเรียกร้อง หรือข้อโต้แย้งเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือบุคคลอื่น ๆ เนื่องจาก บริษัทมีภาระผูกพันด้านกฎหมายที่ต้องให้ข้อมูล หรือเพื่อปกป้องบริษัท โดยการนำหรือโต้แย้งการเรียกร้องนั้นๆ 2) เพื่อการจัดการข้อร้องเรียนหรือข้อขัดแย้ง การสืบสวน การสอบสวน และการตรวจสอบข้อร้องเรียนตามที่บริษัทได้รับการร้องเรียนจากผู้ร้องเรียน ตลอดจนการประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และการดำเนินการ ที่จำเป็นอื่น ๆ เพื่อยุติข้อร้องเรียนหรือข้อขัดแย้งดังกล่าว 3) เพื่อการดําเนินกระบวนการยุติธรรม การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตาม กฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือ การยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย รวมถึงการบังคับคดีตามหมาย บังคับคดี 4) เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย และการรายงานข้อมูล และ/หรือนำส่ง ข้อมูล ต่อหน่วยงานราชการตามกฎหมาย เมื่อได้รับหมายเรียกหมายบังคับคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานราชการ ศาล หรือหน่วยงานบังคับใช้ กฎหมายอื่น ๆ |
13. เพื่อการรักษาความ ปลอดภัยของบริษัท | 1) เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารและสถานที่ของบริษัท รวมถึงการบันทึกภาพภายในบริเวณอาคารและสถานที่ของบริษัท ตลอดจนสถานที่และบริเวณอื่นที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทด้วย กล้องโทรทัศน์วงจรปิด รวมถึงการพิจารณาอนุมัติคำร้องในการขอตรวจสอบ ข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของบริษัทจากบุคคลภายนอก เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นต้น 2) เพื่อการตรวจสอบและยืนยันตัวตนเพื่อการเข้า – ออกบริเวณอาคาร และสถานที่ของบริษัท |
14. เพื่อการรับข้อสอบถามจากบุคคลภายนอก และ ดำเนินการตอบข้อสอบถาม ดังกล่าว | เพื่อการดำเนินการรับข้อสอบถามจากบุคคลภายนอก และดำเนินการ ตอบข้อสอบถามดังกล่าว หรือตอบข้อสอบถามเกี่ยวกับการดำเนินกิจการของบริษัท เช่น ข้อสอบถามจากนักลงทุนรายย่อย |
7. การเปิดเผยข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
7.1 ภายในบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล อาจจะมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่างๆ ภายในบริษัทเฉพาะที่เกี่ยวข้องและมีบทบาทหน้าที่เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์เท่านั้น ทั้งนี้ เพื่อดำเนินการตามกระบวนการต่าง ๆ ของบริษัท การบริหารจัดการ และเพื่อการสื่อสารภายในบริษัท โดยบุคคลหรือ ทีมงานที่เกี่ยวข้องของบริษัทอาจจะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยเป็นไปตามความจำเป็น
7.2 ภายนอกบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล อาจมีการส่งต่อให้กับบุคคลหรือ หน่วยงานภายนอก ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมอาจจะถูกเปิดเผยให้ได้แก่บริษัทย่อย บริษัทในเครือ และบริษัทร่วมทุน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ : เพื่อ วัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจกรรมตามที่ระบุในแบบแจ้งฉบับนี้
ผู้ให้บริการภายนอก ตัวแทน ผู้รับจ้าง และ/หรือ ผู้รับจ้างช่วง : ได้แก่ หน่วยงาน ภายนอก คู่สัญญา และ/หรือ คู่สัญญาช่วงของบุคคลภายนอกดังกล่าว ที่ได้ให้บริการด้านสารสนเทศ และ/หรือ ให้บริการสนับสนุน เช่น ผู้ให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ผู้ให้บริการระบบเทคโนโลยีผู้ให้บริการงานวิศวกรรมและ เทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรม ผู้ให้บริการตรวจสอบภายใน ผู้ให้บริการแปลเอกสาร ผู้ให้บริการตรวจสอบและ รับรองมาตรฐาน ผู้ให้บริการด้านการรักษาความปลอดภัย ผู้ให้บริการขนส่ง โรงแรม สายการบิน บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นต้น
ที่ปรึกษาของบริษัท : ได้แก่ ผู้ตรวจสอบ ผู้สอบบัญชีที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ปรึกษา ทางภาษีที่ปรึกษากฎหมาย ที่ปรึกษาด้านการลงทุน เป็นต้น
ลูกค้า คู่ค้า หรือคู่สัญญาของบริษัท : บริษัทอาจจะต้องนำส่งข้อมูลของเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลให้แก่ลูกค้า คู่ค้า หรือคู่สัญญาของบริษัท ในกรณีที่มีความจำเป็นในการจัดการและส่งมอบบริการแก่หน่วยงานดังกล่าว
สถาบันการเงิน : เพื่อการรับชำระหนี้หรือการชำระค่าใช้จ่าย ค่าบริการ การดำเนิน ธุรกรรมของบริษัทในกระบวนการที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารพาณิชย์เป็นต้น
หน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานอื่นตามกฎหมาย : บริษัทอาจจะนำส่งข้อมูลของเจ้าของ ข้อมูลส่วนบุคคลแก่หน่วยงานรัฐ หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล องค์กรอิสระ หรือหน่วยงานอื่นตามที่ กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจหรือปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น กระทรวงพาณิชย์กระทรวง แรงงาน กระทรวงพลังงาน กรมสรรพากร กรมบังคับคดีกรมป่าไม้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมที่ดิน กรมพัฒนา ฝีมือแรงงาน กรมการอุตสาหกรรมทหาร ศาลยุติธรรม ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานพลังงานจังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เป็นต้น เพื่อให้ เป็นไปตามข้อร้องขอที่เป็นไปตามกฎหมาย โดยบริษัทจะนำส่งเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลที่เป็นไปตามกฎหมายและเป็นไปตามสิ่งที่บริษัทคิดเห็นว่ามีความจำเป็นต้องทำ
องค์กรหรือบุคคลภายนอกอื่น : ในบางกรณีที่บริษัทได้รับความยินยอมจากเจ้าของ ข้อมูลส่วนบุคคล หรือตามข้อกำหนดของสัญญา หรือตามข้อกำหนดของกฎหมาย แล้วแต่กรณีรวมถึง การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น สื่อสาธารณะ สื่อออนไลน์เป็นต้น
ทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถแจ้งความประสงค์ที่จะไม่เปิดเผยการให้ข้อมูล ดังกล่าวกับองค์กรหรือหน่วยงานภายนอกเมื่อไรก็ได้โดยแจ้งความประสงค์ได้ที่ช่องทางการติดต่อ ที่ระบุในแบบแจ้งฉบับนี้
7.3 การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
ในบางกรณีบริษัทอาจมีการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ ทั้งนี้ ในการส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าว บริษัทจะทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูล ส่วนบุคคลมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ และบริษัทจะจัดให้มีมาตรการ การคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม และจะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ หากจำเป็นต้องปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด
8. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
8.1 การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้ปฏิบัติตามมาตรการที่เหมาะสมทางด้านเทคนิคและการบริหารองค์กร เพื่อที่จะปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ เมื่อบริษัทต้องโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ให้บริการที่เป็นบุคคลที่สาม หรือมอบหมายให้บุคคลอื่นดำเนินการ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัท บริษัทจะกำกับดูแลบุคคลดังกล่าว อย่างเหมาะสมเพื่อให้มั่นใจได้ว่าบุคคลดังกล่าวจะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
8.2 ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่มีความจำเป็น ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้โดยทั่วไป จะเป็นไปตามระยะเวลา เช่น ระยะเวลาที่บริษัทยังคงดำเนินความสัมพันธ์กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นตามกฎหมายตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการจัดการเกี่ยวกับข้อเรียกร้องหรือข้อโต้แย้งหรือ การยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือบุคคลอื่น ๆ หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในของบริษัท
9. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้
9.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูล ส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่กับบริษัท เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูล ส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทก่อนหน้าแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
9.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคล และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงขอให้บริษัท เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทได้ ทั้งนี้บริษัทอาจปฏิเสธคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หากการเข้าถึงและขอรับ สำเนาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และเป็นกรณีที่บริษัทต้องปฏิบัติตาม กฎหมายหรือคำสั่งศาลที่ห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
9.3 สิทธิในการให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งาน โดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วย วิธีการอัตโนมัติเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจากบริษัทได้ รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติเว้นแต่เป็นกรณีที่ขัดต่อกฎหมายหรือกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
9.4 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ของตน ด้วยเหตุผลบางประการตามที่กฎหมายกำหนดได้เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคล หรือเป็นไปเพื่อการก่อตั้ง การปฏิบัติตามหรือการใช้และการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
9.5 สิทธิในการขอให้ลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอให้บริษัททำการลบ หรือทำลายข้อมูล ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ด้วยเหตุตามที่กฎหมาย กำหนด เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทมีสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายที่จำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล (ซึ่งรวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียงสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย) หรือต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการ เก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว
9.6 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือใช้สิทธิ เรียกร้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว
9.7 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
9.8 สิทธิในการร้องเรียน
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้น ตามช่องทาง การติดต่อด้านล่างนี้ทั้งนี้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ในการดำเนินการตามสิทธิ ข้างต้น โดยบริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องของเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลภายใน 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทได้รับคำร้องขอดังกล่าว อนึ่งบริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะปฏิเสธหรือ ไม่ดำเนินการตามคำร้องขอดังกล่าวได้ ในกรณีที่กฎหมายกำหนด
10. ช่องทางการติดต่อ
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วน บุคคล การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล การใช้สิทธิของเจ้าของ ข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ สามารถติดต่อบริษัทได้ที่
บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด
128 หมู่ 6 ตำบลพิกุลทอง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี 70000
โทรศัพท์: 0-2978-5170, 0-3271-9170
อีเมล : DPO_RG@RATCHGEN.CO.TH
11. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว
ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงเป็นครั้งคราว ซึ่งบริษัทจะแจ้งเจ้าของ ข้อมูลส่วนบุคคล เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่มีต่อประกาศนี้โดยการแจ้งผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ของบริษัท