ประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับการบริหารงานบุคคล

Image Lightbox

บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด (“บริษัท”) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล (PERSONAL DATA PROTECTION) ที่ต้องได้รับความคุ้มครองภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล จึงวางแนวทางและวิธีปฏิบัติต่อข้อมูล ส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทุกท่าน โดยมีการเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผยให้ เป็นไปอย่างปลอดภัย การแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ให้ใช้กับข้อมูลส่วนบุคคล ของบุคคลต่างๆ ที่อยู่ในความครอบครองของบริษัทสำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ของกระบวนการบริหารงานบุคคลของบริษัท ซึ่งแบบแจ้งฉบับนี้จะอธิบายให้เห็นถึงการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยบริษัท ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่บริษัทได้ขอจัดเก็บ จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลรวมถึงจากบุคคลที่สาม ลักษณะการจัดเก็บและกระทำกับข้อมูลส่วนบุคคล มีวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยเพื่อการใด และมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและปกป้องข้อมูลนี้มิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อน

1. คำนิยาม
“บริษัท” หมายถึง บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับ การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
“บุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดา
“เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” (DATA PROTECTION OFFICER: DPO) หมายถึง ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้มีหน้าที่ให้คำแนะนำและตรวจสอบการดำเนินงาน ประสานงาน และให้ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
“การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลอื่นใดในข้อมูลส่วนบุคคล

2. ขอบเขตการบังคับใช้
บริษัทได้จัดทำและเผยแพร่ประกาศฉบับนี้เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน ผู้สมัครฝึกงาน นักศึกษาฝึกงาน พนักงาน ลูกจ้าง ผู้บริหาร กรรมการ และบุคคลในครอบครัว บุคคลอ้างอิง ผู้ค้ำประกัน ผู้รับผลประโยชน์ของเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลข้างต้น และบุคคลอื่นซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นได้ให้ข้อมูลไว้แก่บริษัท ทั้งที่อยู่ในกระบวนการ สรรหา ระหว่างการทดลองงาน ระหว่างการจ้างงาน ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง หรือมีความสัมพันธ์ทางกฎหมายหรือสัญญากับบริษัท และหลังจากที่บุคคลได้สิ้นสภาพพนักงานหรือลูกจ้างของบริษัทหรือสิ้นสุดการดำรงตำแหน่ง หรือกิจการอันเป็นการก่อให้เกิดความสัมพันธ์ทางกฎหมายหรือสัญญาระหว่างกันสิ้นสุดลงแล้ว รวมถึงขั้นตอนการเก็บรวบรวมข้อมูล ช่องทางการจัดเก็บข้อมูล ประเภทและรูปแบบของข้อมูล ที่จัดเก็บ วัตถุประสงค์ของบริษัทในการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ การแบ่งปันส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลอื่น ตลอดจนวิธีการที่บริษัทดำเนินการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์และเพียงเท่าที่จำเป็นตามกรอบวัตถุประสงค์หรือเพื่อประโยชน์ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม โดยบริษัทจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบก่อนหรือในขณะรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลถึงรายละเอียดดังต่อไปนี้ เว้นแต่กฎหมาย จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
(1) วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม
(2) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ทำการเก็บรวบรวม
(3) กรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญา หรือเพื่อเข้าทำสัญญา โดยจะแจ้งถึงผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลให้เจ้าของข้อมูลทราบด้วย
(4) ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมอาจถูกเปิดเผย
(5) สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
(6) ข้อมูลติดต่อของบริษัทในฐานะที่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ถ้ามี)
บริษัทได้จัดเก็บข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่มีความจำเป็น และเป็นไป ตามวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลที่บริษัทจะแจ้งให้ทราบในลำดับถัดไป ทั้งนี้ได้จำแนกประเภทของข้อมูล ส่วนบุคคลที่บริษัทจัดเก็บไว้ ดังนี้

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียด
3.1 ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขประจำตัวประชาชน หมายเลขใบอนุญาต ขับรถ หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขประจำตัวพนักงาน วันออกบัตรและวันหมดอายุของบัตรประจำตัวประชาชนและหนังสือเดินทาง เลขที่ประกันสังคม เลขทะเบียนรถยนต์ วัน เดือน ปีเกิด สถานที่เกิด เพศ อายุ น้ำหนัก ส่วนสูง สัญชาติ สถานภาพการสมรส รูปถ่าย ลายมือชื่อ ชื่อเล่น รวมถึงข้อมูลอื่นที่ปรากฏบนสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาใบอนุญาตขับรถ สำเนาทะเบียนสมรส หรือสำเนาทะเบียนบ้าน เป็นต้น
3.2 ข้อมูลติดต่อ เช่น ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่เดิม หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูลติดต่อบนสื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น
3.3 ข้อมูลทางการเงินหรือข้อมูลการทำธุรกรรม เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลบัญชีธนาคาร หมายเลขสัญญาเงินกู้และข้อมูลสัญญาเงินกู้ ข้อมูลกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประวัติการกู้ยืมเงินและ/หรือการเบิกสวัสดิการของพนักงาน ข้อมูลการหักชำระหนี้ เป็นต้น
3.4 ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานระบบสารสนเทศของบริษัท หรือข้อมูลด้านเทคนิคอื่น ๆ เช่น หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP ADDRESS) รหัสประจำตัวอุปกรณ์ ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (COOKIES) หรือเทคโนโลยีอื่นที่มีลักษณะเดียวกัน ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (LOG) ข้อมูลการเข้าใช้งานเว็บไซต์และระบบต่าง ๆ ของบริษัท ข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานสำหรับใช้งานระบบสารสนเทศของบริษัท เป็นต้น
3.5 ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาและการทำงาน รวมถึงการฝึกอบรมต่าง ๆ เช่น ประวัติการศึกษาและการทำงาน ประวัติการเข้ารับการฝึกอบรม ข้อมูลใบอนุญาตทำงานและวีซ่า ข้อมูลใบประกอบวิชาชีพ ความสามารถทางภาษา ชื่อสถานที่ทำงาน เป็นต้น
3.6 ข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงาน เช่น รหัสพนักงาน ตำแหน่งงาน สังกัด สถานภาพการเป็นพนักงาน วันที่เริ่มงาน วันที่ทดลองงาน วันที่สิ้นสภาพการเป็นพนักงาน อายุงาน สถานที่ปฏิบัติงาน ผลการปฏิบัติงาน อัตราเงินเดือน สลิปเงินเดือน ประวัติการมาทำงาน วันเกษียณอายุ การทำงานล่วงเวลา สถิติการลา การฝึกอบรม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การเบิกใช้สวัสดิการ ประวัติการกู้ยืมเงินสวัสดิการของพนักงาน ข้อมูลการหักชำระหนี้ เหตุผลการลาออก การประเมินผลงาน การปรับตำแหน่งงาน การลงโทษ เป็นต้น
3.7 ข้อมูลการติดต่อกับบริษัท เช่น ข้อมูลการบันทึกภาพหรือเสียงเมื่อมีการติดต่อกับบริษัท เป็นต้น
3.8 ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัท เช่น การบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว หรือเสียง เป็นต้น
3.9 ข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เช่น ข้อมูลสมาชิกสายการบิน สัดส่วนการถือหุ้นหรือหลักทรัพย์ ของบริษัท (ถ้ามี) สถานภาพการเกณฑ์ทหาร ข้อมูลคู่สมรส สมาชิก ในครอบครัว ข้อมูลบุคคลอ้างอิง ข้อมูลบุคคลติดต่อกรณีฉุกเฉิน ผู้รับผลประโยชน์ ข้อมูลการตรวจสอบภูมิหลัง ผลสำรวจความคิดเห็นหรือการประเมินความพึงพอใจ งานอดิเรก เป็นต้น
3.10 ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ ศาสนา ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ผลการตรวจสารเสพติด ความพิการหรือสภาพเฉพาะ ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า เป็นต้น
   
 

        ในบางกรณี บริษัทอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ในกรณีดังกล่าวบริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งรวมถึงการขอความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามที่กฎหมายกำหนด หากบริษัทไม่มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายประการอื่นนอกเหนือจากการขอความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว

4. การได้มาและเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งต่าง ๆ ได้แก่
4.1 การได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง
ข้อมูลส่วนบุคคลโดยส่วนใหญ่ บริษัทจะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง โดยเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากกระบวนการแต่งตั้งและสรรหา การรับสมัครงาน รวมถึงกระบวนการต่าง ๆ เกี่ยวกับสัญญาจ้างงาน และการจ้างงาน ทั้งนี้ในบางกรณี บริษัทอาจจะได้รับข้อมูลจากบุคคลที่สาม การยื่นข้อเรียกร้องหรือคำร้องขอใช้สิทธิต่าง ๆ ต่อบริษัท การติดต่อบริษัทผ่านทางช่องทางต่าง ๆ (เช่น ทางโทรศัพท์ ทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์) การเข้าร่วมประชุมหรือการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของบริษัทที่อาจมีการบันทึกภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว นอกจากนี้ บริษัทอาจมีการจัดเก็บข้อมูลโดยอัตโนมัติ (เช่น เมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทหรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท)
4.2 การได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น
บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อกระบวนการแต่งตั้งสรรหา และกระบวนการคัดเลือกพนักงานหรือลูกจ้าง เช่น การขอข้อมูล เพื่ออ้างอิงจากหน่วยงานต้นสังกัดหรือจากนายจ้างเดิมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือบุคคลอ้างอิงอื่น ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ข้อมูลไว้แก่บริษัท การขอข้อมูลจากนายทะเบียนบริษัท และการเช็กประวัติส่วนตัวอื่น ๆ ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายอนุญาต รวมถึงในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสมัครงานกับบริษัท ผ่านตัวแทนรับจ้างจัดหางาน (HEADHUNTING/RECRUITING AGENCY) หรือเว็บไซต์หางาน

5. ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป บริษัทจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย โปร่งใส และเป็นธรรม ภายใต้ฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
5.1 เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคลตามมาตรา 24 (2) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
5.2 เพื่อการปฏิบัติตามพันธสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทหรือเพื่อ ใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญา ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 24 (3) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
5.3 เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทซึ่งจะไม่ละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน หรือสิทธิทางเสรีภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 24 (5) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
5.4 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติการบัญชี ประมวลรัษฎากร พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคมและมูลนิธิ เป็นต้น และ/หรือ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน แรงงานสัมพันธ์ ประกันสังคม ภาษีสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การประเมินความสามารถ ในการทำงาน ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 24 (6) ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
บริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล กรณีที่มีกฎหมายกำหนด ให้ขอความยินยอม หรือบริษัทไม่มีเหตุให้ใช้ฐานการประมวลผลข้างต้นเพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมมาจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ประสงค์ให้ความยินยอม ในส่วนนี้ สามารถถอนความยินยอมได้โดยติดต่อบริษัทและแจ้งความประสงค์ได้ตามข้อ 10
ในกรณีข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวข้างต้นโดยได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่กรณีตามที่กฎหมายกำหนด

6. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
วัตถุประสงค์และรายละเอียดดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจะแจ้งต่อไปนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ สถานะของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และลักษณะความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัท ดังต่อไปนี้
6.1 การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับผู้สมัครงาน ผู้สมัครฝึกงาน รวมถึงบุคคลในครอบครัว และบุคคลอ้างอิง

วัตถุประสงค์ในการดำเนินการ รายละเอียด
1. เพื่อกระบวนการสรรหาบุคลากร 1) เพื่อการดำเนินการที่จำเป็นในการพิจารณา ตรวจสอบคุณสมบัติ และคัดเลือกว่าผู้สมัครงาน หรือผู้สมัครฝึกงานเหมาะสมกับบทบาทหน้าที่ ในตำแหน่งงานที่บริษัทต้องการสรรหาอยู่หรือไม่ ซึ่งรวมถึงขั้นตอนเมื่อผู้สมัครงานหรือผู้สมัครฝึกงานได้สมัครงานกับบริษัทโดยตรง หรือ ผ่านทางตัวแทนรับจ้างจัดหางาน หรือบุคคลที่สาม ขั้นตอนการประเมิน การทำแบบทดสอบ หรือตอบคำถาม เกี่ยวกับรายละเอียดบุคลิกภาพของผู้สมัครงานหรือผู้สมัครฝึกงาน และ/หรือขั้นตอนการสัมภาษณ์งาน และการติดต่อผู้สมัครงานหรือผู้สมัครฝึกงานเพื่อตระเตรียม ดำเนินการ ประเมิน และให้ข้อมูลตอบกลับ (FEEDBACK) เกี่ยวกับการประเมินผลและการสัมภาษณ์ ตลอดจนเสนอการจ้างงานแก่ผู้สมัครงานหรือผู้สมัครฝึกงาน
2) เพื่อการบริหารจัดการภายในของบริษัทเกี่ยวกับกระบวนการสรรหาบุคลากร และการบริหารงานบุคคลอื่น ๆ ที่จำเป็น เช่น การประสานงานกับผู้บริหารในสายงาน (LINE MANAGER) และ/หรือหน่วยงานที่เปิดรับสมัครงานเพื่อการคัดสรรใบสมัครเพื่อนัดหมายสัมภาษณ์ การปรับเปลี่ยนขั้นตอนกระบวนการสรรหา เป็นต้น
2. เพื่อการตรวจสอบประวัติการทำงานก่อนการจ้างงาน เพื่อการตรวจสอบประวัติของผู้สมัครงานก่อนการจ้างงาน เพื่อการประเมินความสามารถในการทำงานของผู้สมัครงาน เช่น ตรวจสอบคุณสมบัติด้านวิชาชีพ ข้อมูลสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม และการตรวจเช็กจากบุคคลอ้างอิงที่ผู้สมัครงานได้ให้ข้อมูลไว้กับบริษัท รวมถึงตรวจสอบว่าผู้สมัครงานมีความสนใจในตำแหน่งงานอื่นในบริษัทหรือไม่
3. เพื่อการพิจารณาตำแหน่งงานอื่นที่เหมาะสมในอนาคต เพื่อการจัดทำฐานข้อมูลของผู้สมัครงาน และบุคคลที่เกี่ยวข้องในการสมัครงานเพื่อการติดต่อผู้สมัครงานในกรณีที่มีตำแหน่งงานใด ๆ ในอนาคตที่อาจจะเหมาะสมกับผู้สมัครงาน โดยบริษัทจะเก็บรายละเอียดของผู้สมัครงานในฐานข้อมูลของบริษัทเป็นเวลา 1 ปี
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องการให้ลบ หรือทำลาย หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล โปรดติดต่อมายังบริษัทที่อีเมล DPO_RG@RATCHGEN.CO.TH
 

6.2 การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับพนักงาน ลูกจ้าง ผู้บริหาร กรรมการ รวมถึงบุคคลในครอบครัว บุคคลอ้างอิง และผู้รับผลประโยชน์

วัตถุประสงค์ในการดำเนินการ รายละเอียด
1. เพื่อการดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของบริษัท 1) เพื่อการจัดทำสัญญา ข้อตกลง หรือสัญญาอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อการ จ้างงาน การแต่งตั้ง การจัดสรร และบริหารจัดการหน้าที่ความรับผิดชอบของพนักงาน ลูกจ้าง ผู้บริหาร และกรรมการ ตามข้อตกลงหรือสัญญาข้างต้น
2) เพื่อการดำเนินการและบริหารงานด้านบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อความจำเป็นในการบริหารจัดการด้านบุคลากรและปฏิบัติตามสัญญาจ้างงาน ข้อตกลง หรือสัญญาอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น การจัดทำ แก้ไข และบันทึกฐานข้อมูลพนักงาน ลูกจ้าง ผู้บริหาร กรรมการของบริษัท การประเมินผลการทดลองงาน และการปฏิบัติงาน การประเมินผลงาน การพิจารณาปรับตำแหน่งงาน การบริหารจัดการเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอื่น การปรับอัตราเงินเดือน รวมถึงการจ่ายโบนัส การประเมินสมรรถภาพสำหรับการทำงาน การกำหนดสิทธิการใช้งานระบบต่าง ๆ ของบริษัท การสร้างบัญชีและรหัสผู้ใช้งาน การบันทึกเวลาปฏิบัติงาน การออกหนังสือรับรองการทำงาน การโอนย้ายเบอร์โทรศัพท์มือถือมายังบริษัท การจัดทำบัตรประจำตัวพนักงาน การจัดทำนามบัตร การจัดทำบัตรจอดรถยนต์ เป็นต้น รวมถึงการดำเนินการตามกระบวนการและขั้นตอนต่าง ๆ เกี่ยวกับการออกจากงาน
3) เพื่อการพัฒนาทักษะความรู้ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การจัดการฝึกอบรม สัมมนา และการรับรองด้านความรู้ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกบริษัท การทดสอบความรู้ความเข้าใจ ทำแบบสอบถาม หรือสำรวจความคิดเห็น และประเมินผลจากการทดสอบหรือสำรวจดังกล่าว รวมทั้งขั้นตอนการจัดเตรียมรถโดยสาร อาหาร ที่พัก และสถานที่ต่าง ๆ เพื่อการฝึกอบรมและสัมมนาข้างต้น
2. เพื่อการดำเนินการด้านค่าตอบแทน สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ 1) เพื่อการดำเนินการเกี่ยวกับการประมวลผลเงินเดือน การจ่ายเงินเดือนและค่าตอบแทนต่าง ๆ รวมถึงการดำเนินการตามกฎหมายต่าง ๆ เช่น การจ่ายโบนัส การหักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา การหักเงินค่าประกันสังคม เป็นต้น
2) เพื่อการจัดสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ให้กับพนักงาน ลูกจ้าง ผู้บริหาร กรรมการ เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี การเบิกค่าใช้จ่าย ค่ารักษาพยาบาล ค่าเครื่องแต่งกาย ดอกเบี้ยที่อยู่อาศัย การกู้ยืมเงิน ของพนักงาน การให้สิทธิ์จอดรถ การสมัครสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สหกรณ์ออมทรัพย์ ประกันสังคม การจัดทำประกันภัย ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต การตรวจสอบและดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนจากประกันอุบัติเหตุตามที่พนักงาน ลูกจ้าง ผู้บริหาร และกรรมการร้องขอ รวมถึงการจัดการผลประโยชน์ในกรณีการเสียชีวิตหรือผลประโยชน์อื่นใดไปยังบุคคลที่สามที่เกี่ยวข้อง และ การส่งมอบเงินช่วยเหลือสวัสดิการต่าง ๆ เช่น เงินสมทบกรณีการสมรส คลอดบุตร ครอบครัวเสียชีวิต ตลอดจนขั้นตอนการพิจารณาเงินช่วยเหลือให้เป็น ไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัท
3. เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาจ้างงาน หรือสัญญาอื่นที่เกี่ยวข้อง 1) เพื่อการดำเนินการของพนักงาน ลูกจ้าง ผู้บริหาร และกรรมการ ในการปฏิบัติหน้าที่ภายใต้ขอบเขตสัญญาจ้างงาน ข้อตกลง หรือสัญญาอื่นที่เกี่ยวข้องรวมถึงการดำเนินการตามขั้นตอน หรือกระบวนการต่าง ๆ ภายในและภายนอกบริษัท เช่น การจัดทำหนังสือมอบอำนาจ เพื่อดำเนินการแทนบริษัท การดำเนินธุรกิจ การลงทุน หรือดำเนินโครงการต่าง ๆ ของบริษัท การติดต่อทำธุรกรรมกับธนาคาร สถาบันทางการเงิน บริษัทในเครือ หรือหน่วยงานราชการต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ การดำเนินการตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อดำเนินการจัดทำข้อเสนอและยื่นข้อเสนอการให้บริการแก่หน่วยงานภายนอก การเข้าทำสัญญากับคู่ค้า ลูกค้า หรือบุคคลภายนอกอื่น การตรวจรับงาน การประสานงาน และทำเอกสารรายงานต่อผู้มีอำนาจ เป็นต้น
2) เพื่อการสนับสนุนกระบวนการทำงาน เช่น การสนับสนุนด้านเครื่องมืออุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงาน การติดต่อสื่อสารและประสานงานในการเดินทางไปปฏิบัติงานหรือศึกษา ดูงานภายในประเทศหรือต่างประเทศ การดำเนินการเรื่องการเดินทางหรือที่พักที่เกี่ยวกับการทำงาน การดำเนินการที่จำเป็นในการจัดทำวีซ่า รวมถึงการเตรียมความพร้อมให้บริการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ บุคลากรที่ไปปฏิบัติงานในต่างประเทศ และการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการทำงาน เป็นต้น
3) เพื่อการจัดหรือเข้าร่วมการประชุม หรือกิจกรรมของบริษัท รวมถึงการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง เช่น การเชิญประชุม การลงทะเบียนประชุม การจัดทำเอกสารประกอบการประชุมและรายงานการประชุม การเบิกจ่ายเบี้ยประชุม การอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปประชุม เป็นต้น ซึ่งอาจมีการบันทึกภาพหรือเสียงขณะเข้าร่วมประชุมหรือเข้าร่วมกิจกรรมข้างต้น ตลอดจนการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ การประกาศ เผยแพร่ข้อมูล หรือประชาสัมพันธ์การประชุมหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกบริษัท ตามวัตถุประสงค์ของแต่ละกิจกรรม
4. เพื่อการตรวจตราและตรวจสอบการขอใช้ระบบสารสนเทศภายในของบริษัท เพื่อการตรวจตราและตรวจสอบการใช้ระบบสารสนเทศภายใน ของบริษัทที่ได้ส่งโดยใช้บัญชี เครือข่าย และอุปกรณ์เครื่องใช้ที่บริษัทได้ให้กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์เมื่อมีการเข้าใช้งานระบบสารสนเทศทางคอมพิวเตอร์ของบริษัท ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 และนโยบายที่เกี่ยวข้องของบริษัท
5. เพื่อการตรวจสอบและจัดการเกี่ยวกับข้อร้องเรียนต่าง ๆ เพื่อการดำเนินการตรวจสอบและจัดการข้อร้องเรียน คำร้องเรียนต่าง ๆ รวมถึงขั้นตอนการตรวจสอบ ผลงาน ความสามารถ การลา และการอุทธรณ์ การละเมิด การร้องเรียน การสอบสวน และขั้นตอนใด ๆ รวมถึงขั้นตอนด้านการบริหารงานบุคคล แนวปฏิบัติเพื่อต่อต้านการทุจริต แนวทางธรรมาภิบาลของกิจการบริษัท ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ การตัดสินใจด้านการบริหารที่เกี่ยวข้อง และอื่น ๆ ตามที่จำเป็นภายใต้สัญญาของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัท
6. เพื่อการคุ้มครองแรงงาน สุขภาพและความปลอดภัยใน ที่ทำงาน เพื่อการคุ้มครองแรงงาน สุขภาพและความปลอดภัยในที่ทำงาน การบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 พระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมใน การทำงาน พ.ศ. 2554 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการประเมินสมรรถภาพสำหรับการทำงาน การให้ความช่วยเหลือในกรณีได้รับบาดเจ็บจากการทำงาน การเจ็บป่วย การบริหารงานด้านสุขภาพและความปลอดภัยของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ให้ความสนับสนุนในสิ่งที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาจจะมีความจำเป็นและต้องการความช่วยเหลือ และติดต่อผู้ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉินหากจำเป็น
7. เพื่อรายงานและการวิเคราะห์ด้านการเงินและธุรกิจ เพื่อการบริหารจัดการ การวางแผนงบประมาณ การบริหารด้านการบัญชี และการวางแผนในอนาคตต่างๆ รวมถึงการจัดทำรายงานและเอกสาร ต่าง ๆ เพื่อขอการรับรองจากหน่วยงานราชการหรือตามที่กฎหมายกำหนด
8. เพื่อการตรวจสอบภายในหรือการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1) เพื่อการตรวจสอบและดำเนินการตามความจำเป็นตามกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ เช่น การเก็บบันทึกเรื่อง การรับของขวัญ ของกำนัล หรือสินน้ำใจต่างๆ และการต่อต้านการติดสินบน และรายงานคอร์รัปชั่น จรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจ เป็นต้น
2) เพื่อการบริหารความเสี่ยง การป้องกันและตรวจสอบ และการบริหารจัดการภายในองค์กร ตามที่กำหนดในกฎหมาย คำสั่งหรือระเบียบภายในของบริษัท รวมถึงการพิจารณาเรื่องร้องเรียนการทุจริตหรือประพฤติมิชอบภายในบริษัท เช่น การตรวจสอบภายในของบริษัทการตรวจสอบ สอบสวน และป้องกันการทุจริตหรือการกระทำอื่นใด ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย การให้คำปรึกษาแก่ บุคลากรเกี่ยวกับการตรวจสอบภายในของบริษัท และการตรวจสอบความขัดแย้ง ทางผลประโยชน์ เป็นต้น
 

6.3 การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับอดีตพนักงาน
หลังจากการสิ้นสภาพพนักงาน ลูกจ้าง หรือสิ้นสุดการจ้างงานกับบริษัท บริษัทอาจจะมีความจำเป็นที่ต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อจะดำเนินการตามภาระผูกพันทางธุรกิจ

วัตถุประสงค์ในการดำเนินการ รายละเอียด
1. เพื่อการบริหารความต่อเนื่องของธุรกิจ เพื่อทำความเข้าใจและจัดเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่เพื่อความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจของบริษัท
2. เพื่อการวิเคราะห์และเก็บรักษาพนักงานของบริษัท เพื่อให้เข้าใจว่าทำไมเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถึงได้ตัดสินใจลาออก จากบริษัท โดยบริษัทจำเป็นต้องใช้ข้อมูลเพื่อปรับปรุงการดำเนินการด้านธุรกิจของบริษัท
3. เพื่อภาระผูกพันตามกฎหมาย และจัดการเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อการปฏิบัติตามภาระผูกพันตามกฎหมาย ตามสัญญาจ้างงานหรือสัญญาอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น การยื่นเอกสารเกี่ยวกับภาษีต่อกรมสรรพากร รวมถึงเพื่อจัดการเกี่ยวกับข้อเรียกร้องหรือข้อโต้แย้งเกี่ยวกับ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท
 

6.4 วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ

วัตถุประสงค์ในการดำเนินการ รายละเอียด
1. เพื่อการตรวจสอบภายในหรือการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1) เพื่อการตรวจสอบและดำเนินการตามความจำเป็นตามกฎหมายและข้อบังคับต่าง ๆ เช่น การเก็บบันทึกเรื่อง การรับของขวัญ ของกำนัล หรือสินน้ำใจต่าง ๆ การต่อต้านการติดสินบน รายงานคอร์รัปชั่น จรรยาบรรณและจริยธรรมทางธุรกิจ เป็นต้น
2) เพื่อการบริหารความเสี่ยง การป้องกันและตรวจสอบ และการบริหารจัดการภายในองค์กร ตามที่กำหนดในกฎหมาย คำสั่งหรือระเบียบภายในของบริษัท รวมถึงการพิจารณาเรื่องร้องเรียนการทุจริตหรือประพฤติมิชอบภายในบริษัท เช่น การตรวจสอบภายในของบริษัทการตรวจสอบ การสอบสวน และป้องกันการทุจริตหรือการกระทำอื่นใดที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย การให้คำปรึกษาแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการตรวจสอบภายในของบริษัท และการตรวจสอบความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เป็นต้น
2. เพื่อการดำเนินการตามกฎหมาย การตรวจสอบภาระผูกพันตามกฎหมาย และการจัดการเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของบริษัท 1) เพื่อการปฏิบัติตามภาระผูกพันตามกฎหมาย อาทิเช่น การโอนสิทธิ การสืบสิทธิ การระงับสิทธิ เป็นต้น รวมถึงเพื่อจัดการเกี่ยวกับข้อเรียกร้องหรือข้อโต้แย้งเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือบุคคลอื่น ๆ เนื่องจากบริษัท มีภาระผูกพันด้านกฎหมายที่ต้องให้ข้อมูล หรือเพื่อปกป้องบริษัท โดยการนำหรือโต้แย้งการเรียกร้องนั้น ๆ
2) เพื่อการจัดการข้อร้องเรียนหรือข้อขัดแย้ง การสืบสวน การสอบสวน และการตรวจสอบข้อร้องเรียนตามที่บริษัทได้รับการร้องเรียนจากผู้ร้องเรียน ตลอดจนการประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และการดำเนินการที่จำเป็นอื่น ๆ เพื่อยุติข้อร้องเรียนหรือข้อขัดแย้งดังกล่าว
3) เพื่อการดำเนินกระบวนการยุติธรรม การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย รวมถึงการบังคับคดีตามหมายบังคับคดี
4) เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย การรายงานข้อมูล และ/หรือนำส่งข้อมูลต่อหน่วยงานราชการตามกฎหมาย เมื่อได้รับหมายเรียก หมายบังคับคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานราชการ ศาล หรือหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่น ๆ
3. เพื่อการรักษาความปลอดภัยของบริษัท 1) เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารและสถานที่ของบริษัท รวมถึงการบันทึกภาพภายในบริเวณอาคารและสถานที่ ของบริษัท ตลอดจนสถานที่และบริเวณอื่นที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด รวมถึงการพิจารณาอนุมัติคำร้องในการขอตรวจสอบข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของบริษัทจากบุคลากรของบริษัท
2) เพื่อการตรวจสอบและยืนยันตัวตนเพื่อการเข้า – ออกบริเวณอาคารและสถานที่ของบริษัท
   
 

7. การเปิดเผยข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
7.1 ภายในบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล อาจจะมีการเปิดเผยหรือนำส่งให้กับหน่วยงานต่างๆ ภายในบริษัทเฉพาะที่เกี่ยวข้องและมีบทบาทหน้าที่เท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์เท่านั้น ทั้งนี้เพื่อดำเนินการตามกระบวนการต่างๆ ของบริษัท การบริหารจัดการ และเพื่อการสื่อสารภายในบริษัท โดยบุคคลหรือทีมงานที่เกี่ยวข้องของบริษัทอาจจะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคล โดยเป็นไปตามความจำเป็น
7.2 ภายนอกบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล อาจมีการส่งต่อให้กับบุคคลหรือหน่วยงานภายนอก ประเภทของบุคคลหรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมอาจจะถูกเปิดเผยให้ ได้แก่
บริษัทย่อย บริษัทในเครือ และบริษัทร่วมทุน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ : เพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจกรรมตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้
ผู้ให้บริการภายนอก ตัวแทน ผู้รับจ้าง และ/หรือ ผู้รับจ้างช่วง : ได้แก่ หน่วยงานภายนอก คู่สัญญา และ/หรือ คู่สัญญาช่วงของบุคคลภายนอกดังกล่าว ที่ได้ให้บริการด้านสารสนเทศ ดูแลเว็บไซต์ และ/หรือ ให้บริการสนับสนุน เช่น ผู้ให้บริการเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบการจัดทำเงินเดือน (PAYROLL OUTSOURCE) ผู้ให้บริการเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบรักษาความปลอดภัย บริษัทหลักทรัพย์ และระบบด้านการสวัสดิการต่างๆ ผู้ให้บริการด้านการประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรม การให้คะแนน (POINT) การประเมินผลเพื่อการบริหารจัดการองค์กร ผู้ให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือสหกรณ์ออมทรัพย์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสมาชิก บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นต้น
ที่ปรึกษาของบริษัท : ได้แก่ ผู้ตรวจสอบ ผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ปรึกษาทางภาษี ที่ปรึกษาทางกฎหมาย วิทยากรภายนอก ที่ปรึกษาโครงการ ผู้ทวนสอบและประเมิน เป็นต้น
ลูกค้า คู่ค้า หรือคู่สัญญาของบริษัท : บริษัทอาจจะต้องนำส่งข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ลูกค้า คู่ค้า หรือคู่สัญญาของบริษัท ในกรณีที่มีความจำเป็นในการจัดการและส่งมอบบริการแก่หน่วยงานดังกล่าว
สถาบันการเงิน : เพื่อการรับชำระหนี้ หรือการชำระค่าใช้จ่าย ค่าบริการ การดำเนินธุรกรรมของบริษัทในกระบวนการที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารพาณิชย์ เป็นต้น
หน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานอื่นตามกฎหมาย : บริษัทอาจจะนำส่งข้อมูล ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแก่หน่วยงานรัฐ หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล องค์กรอิสระ หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจหรือปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น กรมสรรพากร กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมบังคับคดี กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมที่ดิน กรมศุลกากร กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กรมการอุตสาหกรรมทหาร กรมป่าไม้ สถานทูต สำนักงานประกันสังคม สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ สำนักงานพลังงานจังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล สถานีตำรวจ ธนาคารแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน ศาลยุติธรรม โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เป็นต้น เพื่อให้เป็นไปตามข้อร้องขอที่เป็นไปตามกฎหมาย โดยบริษัทจะนำส่งเฉพาะข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลที่เป็นไปตามกฎหมายและเป็นไปตามสิ่งที่บริษัทคิดเห็นว่ามีความจำเป็นต้องทำ
องค์กรหรือบุคคลภายนอกอื่น : ในบางกรณีที่บริษัทได้รับความยินยอม จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือตามข้อกำหนดของสัญญา หรือตามข้อกำหนดของกฎหมาย ยืนยันข้อมูล ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ให้กับองค์กรหรือบุคคลภายนอกที่มีการติดต่อสอบถาม แล้วแต่กรณี เช่น การสมัครหรือใช้บริการด้านสินเชื่อ การสมัครงาน รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น สื่อสาธารณะ สื่อออนไลน์ เป็นต้น หรือในกรณีที่มีความจำเป็นในการเปิดเผยข้อมูลอื่น ๆ เช่น ในการสมัครสมาชิกสมาคมต่าง ๆ การจองที่พักและบริการการเดินทางหรือขนส่งต่าง ๆ การเปิดเผยข้อมูลต่อสื่อมวลชน หรือหน่วยงานที่จัดกิจกรรม เป็นต้น
ในกรณีที่บริษัทได้รับหนังสือยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทอาจจะมีการเปิดเผยข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้กับนายจ้างใหม่ เพื่อการรับรองสภาพการจ้างงานเดิม หรือการให้ข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลกับสถาบันการศึกษาที่เจ้าของข้อมูลเคยศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาหรือโครงการวิจัยคุณภาพบัณฑิต
ทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถแจ้งความประสงค์ที่จะไม่เปิดเผยการให้ข้อมูลดังกล่าวกับองค์กรหรือหน่วยงานภายนอกเมื่อไรก็ได้ โดยแจ้งความประสงค์ได้ที่ช่องทางการติดต่อที่ระบุในประกาศฉบับนี้
7.3 การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
ในบางกรณี บริษัทอาจมีการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ ทั้งนี้ ในการส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าว บริษัทจะทำให้แน่ใจว่าประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ และบริษัทจะจัดให้มีมาตรการการคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม และจะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 รวมถึงการขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศหากจำเป็นต้องปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด

8. การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
8.1 การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้ปฏิบัติตามมาตรการที่เหมาะสมทางด้านเทคนิคและการบริหารองค์กร เพื่อที่จะปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ เมื่อบริษัทต้องโอนย้ายข้อมูล ส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ให้บริการที่เป็นบุคคลที่สาม หรือมอบหมายให้บุคคลอื่นดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัท บริษัทจะกำกับดูแลบุคคลดังกล่าว อย่างเหมาะสมเพื่อให้มั่นใจได้ว่าบุคคลดังกล่าวจะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

8.2 ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่มีความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ โดยทั่วไปจะเป็นไปตามระยะเวลา เช่น ระยะเวลาที่บริษัทยังคงดำเนินความสัมพันธ์กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นตามกฎหมายตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการจัดการเกี่ยวกับข้อเรียกร้องหรือข้อโต้แย้งหรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือบุคคลอื่น ๆ หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในของบริษัท

9. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้
9.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่กับบริษัท เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูล ส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทก่อนหน้าแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
9.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ส่วนบุคคล และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทได้ หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นพนักงานปัจจุบันของบริษัท เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถเข้าถึงข้อมูล ส่วนบุคคลของตนได้ด้วยตนเองผ่านระบบของบริษัท
ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หากการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และเป็นกรณีที่บริษัท ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาลที่ห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น

9.3 สิทธิในการให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล จากบริษัทได้ รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ไว้กับบริษัทไปยัง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ เว้นแต่เป็นกรณีที่ขัดต่อกฎหมายหรือกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
9.4 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของตนด้วยเหตุผลบางประการตามที่กฎหมายกำหนดได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมาย ที่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคล หรือเป็นไปเพื่อการก่อตั้ง การปฏิบัติตามหรือการใช้ และการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
9.5 สิทธิในการขอให้ลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอให้บริษัททำการลบ หรือทำลายข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ด้วยเหตุตาม ที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทมีสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายที่จำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล (ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย) หรือต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว
9.6 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าว
9.7 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นพนักงานปัจจุบันของบริษัท เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของตนได้ด้วยตนเองผ่านระบบของบริษัท หรือดำเนินการกรอกเอกสารตามขั้นตอนดำเนินการของบริษัท
9.8 สิทธิในการร้องเรียน
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เมื่อบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้น ตามช่องทาง การติดต่อด้านล่างนี้ ทั้งนี้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในการดำเนินการตามสิทธิข้างต้น โดยบริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลภายใน 30 วันนับแต่วันที่บริษัทได้รับคำร้องขอดังกล่าว อนึ่งบริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะปฏิเสธหรือไม่ดำเนินการตามคำร้องขอดังกล่าวได้ ในกรณีที่กฎหมายกำหนด

10. ช่องทางการติดต่อ
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล การใช้สิทธิ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีข้อร้องเรียนใด ๆ สามารถติดต่อบริษัทได้ที่
บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด
128 หมู่ 6 ตำบลพิกุลทอง อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี 70000
โทรศัพท์: 0-2978-5170, 0-3271-9170
อีเมล : DPO_RG@RATCHGEN.CO.TH

11. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว
ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ อาจจะเปลี่ยนแปลงเป็นครั้งคราว ซึ่งบริษัทจะแจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่มีต่อประกาศนี้ โดยการแจ้งผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ของบริษัท